นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนในวันนี้ (2 ธ.ค.) ว่า นโยบายการคลังของรัฐบาลยุโรปบางประเทศ อาจนำไปสู่ภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน พร้อมทั้งระบุว่านโยบายการคลังและนโยบายการเงินจำเป็นต้องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน
นางลาการ์ดกล่าวในการประชุมที่จัดขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ที่กรุงเทพฯ ว่า นโยบายการคลังที่ก่อให้เกิดอุปสงค์ส่วนเกินในเศรษฐกิจที่มีอุปทานจำกัดนั้น อาจส่งผลให้มีการคุมเข้มนโยบายการเงินเกินกว่าที่จำเป็น
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ในขณะนี้พบว่ารัฐบาลหลายแห่งในยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ที่ใช้สกุลเงินยูโรหรือยูโรโซน (Eurozone) มีการดำเนินนโยบายไปในทิศทางที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์ส่วนเกิน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะหดตัวลงในไตรมาส 4 ของปี 2565 และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 เนื่องจากราคาพลังงานและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะกระทบการใช้จ่าย, ความสามารถในการกู้ยืมเงิน และความเชื่อมั่น