ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพุธ (7 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,597.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด หรือ +0.005%
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า การทำสงครามในยูเครนอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ขณะที่การสู้รบดังกล่าวดำเนินมาเข้าสู่เดือนที่ 10 แล้ว
อย่างไรก็ดี ปธน.ปูตินระบุว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียกระดมพลมากขึ้น
-- ธนาคารกลางแคนาดาประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.)
ธนาคารกลางระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และตลาดแรงงานที่ตึงตัวเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4.00% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 400,000 บาร์เรล
-- นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการที่อิหร่านจัดหาโดรนให้แก่รัสเซียเพื่อทำการโจมตียูเครน
อย่างไรก็ดี นายเคอร์บีกล่าวว่า สหรัฐยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่าอิหร่านได้จัดส่งขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) ให้แก่รัสเซียเพื่อใช้โจมตียูเครนแต่อย่างใด
-- ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในวันพุธ (7 ธ.ค.) ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า จีนกำลังขยายอิทธิพลไปทั่วโลก และสิ่งนี้จะไม่ทำให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงนโยบายที่มีต่อตะวันออกกลาง
"นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด เรารู้ว่าจีนกำลังพยายามที่จะขยายอิทธิพลไปทั่วโลก แต่เราจะยังคงให้ความสำคัญต่อการเป็นหุ้นส่วนของเราในภูมิภาค" นายจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.8% ในไตรมาส 3 และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.3%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.6% ในไตรมาส 3
-- ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2.00% ในปีหน้า หากสหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ นายเอริค โรเบิร์ตสัน หัวหน้านักวิจัยระดับโลกของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานชื่อ "เรื่องเซอร์ไพรส์ของตลาดการเงินในปี 2566" หรือ "The financial-market surprises of 2023" โดยได้ระบุถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งตลาดได้มองข้ามไป
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ดิ่งลง 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะดิ่งลงจากปัจจุบันที่ราว 79 ดอลลาร์/บาร์เรล เหลือเพียง 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ นายเอริค โรเบิร์ตสัน หัวหน้านักวิจัยระดับโลกของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานชื่อ "เรื่องเซอร์ไพรส์ของตลาดการเงินในปี 2566" หรือ "The financial-market surprises of 2023" โดยได้ระบุถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งตลาดได้มองข้ามไป
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดส่งออก, นำเข้า และดุลการค้าเดือนต.ค., อินโดนีเซียจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์