ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางได้ซื้อทองคำสำรองเพิ่มอีก 32 ตันในวันพุธที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ย. 2562 ที่ธนาคารกลางจีนเปิดเผยการเพิ่มทองคำในระบบทุนสำรอง
การซื้อทองคำครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลให้ปริมาณทองคำสำรองของธนาคารกลางจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1,980 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากหลายประเทศซึ่งรวมถึงรัสเซีย เยอรมนี และสหรัฐ โดยสหรัฐเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกถึง 8,133.5 ตัน
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำรวมกันทั้งสิ้น 399 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อรายไตรมาสในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แม้ WGC ไม่ได้ระบุว่าธนาคารกลางของประเทศใดเข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองในปริมาณสูงสุด แต่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า ประเทศเหล่านั้นอาจเป็นจีนและรัสเซีย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางทั่วโลกจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากราคาปรับตัวลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย