ฮ่องกงผ่อนปรนคุมโควิดเพิ่ม ยกเลิกห้ามนักเดินทางเข้าบาร์-ร้านอาหาร

ฮ่องกงยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม หลังจากที่จีนเริ่มผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างรวดเร็วฉับไวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นและเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคมครั้งใหญ่

ทั้งนี้ นายจอห์น ลี ผู้บริหารเกาะฮ่องกงระบุในวันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลฮ่องกงจะยกเลิกคำสั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติจากการเข้าใช้บริการในบาร์ หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารตั้งแต่วันพุธที่ 14 ธ.ค.เป็นต้นไป ตลอดจนยกเลิกหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้ประชาชนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สแกนคิวอาร์โคด ก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนในบางสถานที่ เช่น การเข้ารับประทานอาหารในร้านอาหาร แต่นายลีไม่ได้เอ่ยถึงแผนยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัย

"ทุกคนต้องการให้มีการใช้มาตรการจำกัดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจสูงสุด" นายลีกล่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการสกัดโควิด-19 ได้บั่นทอนเศรษฐกิจฮ่องกงและส่งผลกระทบต่อสถานะศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงมีแนวโน้มหดตัวในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 ใน 4 ปี ขณะที่ ประชากรฮ่องกงลดลงมากที่สุดในรอบอย่างน้อย 6 ทศวรรษในช่วง 12 เดือนถึงเดือนมิ.ย. เนื่องจากประชาชนแห่หนีมาตรการจำกัดและการปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 ครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวขาเข้า แม้การผ่อนปรนมาตรการควบคุมพรมแดนระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่จะส่งผลกระทบได้มากกว่า โดยมีกระแสข่าวว่า จีนและฮ่องกงจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัวอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 9 ม.ค.ปีหน้า

"การปรับเปลี่ยนมาตรการสกัดโควิด-19 ครั้งนี้ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างยิ่งสำหรับความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ" นางมิเชล หล่ำ นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า (Greater China) ของบริษัทโซซิเอต เจเนอรัล เอสเอกล่าว พร้อมเสริมว่า "สำหรับเศรษฐกิจฮ่องกงแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจีนเปิดประเทศ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้" โดยเกรทเทอร์ ไชน่า ประกอบด้วยจีน, ฮ่องกง, มาเก๊า และไต้หวัน

นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ระบุเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ฮ่องกงมีแนวโน้มเป็นหนึ่งในดินแดนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการผ่อนปรนการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และเปิดเศรษฐกิจ โดยประมาณการว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงจะปรับตัวขึ้นประมาณ 7.6% จากการที่จีนเปิดประเทศอีกครั้ง เนื่องจากรายได้การส่งออกและการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น

หุ้นฮ่องกงขยายช่วงบวก หลังนายลีแถลงเรื่องการผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 ครั้งล่าสุด โดยดัชนี MSCI ฮ่องกงพุ่งถึง 1.5% ขณะเดียวกัน หุ้นผู้ให้บริการห้างสรรพสินค้าทะยานขึ้น นำโดยหุ้นวอร์ฟ เรียล เอสเตต อินเวสต์เมนต์ โค (Wharf Real Estate Investment Co) และหุ้นจาร์ดีน มาเธสัน โฮลดิงส์ จำกัด (Jardine Matheson Holdings Ltd) ส่วนหุ้นคาเธ่ย์ แปซิฟิค แอร์เวย์ พุ่งสูงถึง 5.2%