ผู้พิพากษาของศาลปกครองในบาฮามาสได้ปฏิเสธคำร้องขอประกันตัวนายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี โดยระบุว่านายแบงค์แมน-ฟรีดมีความเสี่ยงที่จะหลบหนี พร้อมกับออกคำสั่งให้ควบคุมตัวนายแบงค์แมน-ฟรีดไว้ที่บาฮามาสจนถึงวันที่ 8 ก.พ. 2566 ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากรัฐบาลสหรัฐได้ตั้งข้อหาอาชญากรรมแก่นายแบงค์แมน-ฟรีด เนื่องจากกระทำการหลอกลวงจนทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายเป็นวงเงินจำนวนมาก
เมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) นายแบงค์แมน-ฟรีด ได้ถูกจับกุมตัวในบาฮามาสตามคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐ โดยหน่วยงานสหรัฐและบาฮามาสกำลังทำการตรวจสอบว่า นายแบงค์แมน-ฟรีดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของ FTX หรือไม่
ทั้งนี้ นายแบงค์แมน-ฟรีดได้ถูกตั้งข้อหาทั้งหมด 8 กระทงโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงผ่านระบบคอมพิวเตอร์, การฉ้อโกงผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์, การฟอกเงิน และละเมิดกฎหมายด้านการเงิน โดยหากศาลพิพากษาว่าเขามีความผิดทั้ง 8 ข้อหา นายแบงค์แมน-ฟรีดจะถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 115 ปี
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในระหว่างการถูกจับกุมตัวและรอดำเนินคดีนั้น นายแบงค์แมน-ฟรีดก้มหน้าตลอดเวลาและได้สวมกอดบิดามารดาซึ่งทั้งคู่เป็นศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยบิดาและมารดาของนายแบงค์แมน-ฟรีดเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างนายแบงค์แมน-ฟรีดในทุกช่วงเวลาทั้งในยามที่ FTX เจริญรุ่งเรืองและมาถึงจุดตกต่ำสุด
รายงานยังระบุด้วยว่า บิดาและมารดาของนายแบงค์แมน-ฟรีดได้แสดงออกทางอารมณ์ โดยบางครั้งก็หัวเราะ และบางขณะก็เอานิ้วมืออุดหูในระหว่างที่ลูกชายถูกดำเนินคดี
ด้านนายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการเมืองแมนฮัตตันของสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI), คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) และคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) ต่างก็ทำงานอย่างหนักเพื่อเปิดโปงความผิดของนายแบงค์แมน-ฟรีดในข้อหาฉ้อโกงเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดย SEC และ CFTC ต่างก็ตั้งข้อหาว่า นายแบงค์แมน-ฟรีดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของ FTX