บิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 18,000 ดอลลาร์ในวันนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. โดยดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ขณะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 00.11 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดีดตัว 2.18% สู่ระดับ 18,136.40 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ ขานรับความหวังที่ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคานำเข้า ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 รวมทั้งตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2565 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นายทิม เดรเปอร์ นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 250,000 ดอลลาร์ในกลางปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งจะขับเคลื่อนราคาต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายเดรเปอร์คาดว่าบิตคอยน์จะดีดตัวเหนือระดับ 250,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปีนี้ แต่เขาขอขยายเวลาคาดการณ์ออกไป
"ผมขอขยายเวลาคาดการณ์ออกไปอีก 6 เดือน โดยผมยังคงยืนยันตัวเลข 250,000 ดอลลาร์" นายเดรเปอร์ระบุ
อย่างไรก็ดี การที่บิตคอยน์จะพุ่งแตะ 250,000 ดอลลาร์ตามที่นายเดรเปอร์คาดการณ์ หมายความว่าบิตคอยน์จะต้องพุ่งขึ้นราว 1,400% จากระดับปัจจุบัน
การคาดการณ์ของนายเดรเปอร์สวนทางธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งออกรายงานเตือนว่า บิตคอยน์อาจดิ่งลงสู่ระดับ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า ขณะที่นายมาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส คาดว่าบิตคอยน์จะดิ่งลงแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์