ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
-- ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดีดตัวเหนือระดับ 4.25% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี
ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.251% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 3.474% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.494%
-- รัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีนเพิ่มอีกหลายสิบแห่ง ซึ่งทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศนี้ตึงเครียดกว่าเดิม โดยบริษัทที่ต้องการให้บริการเทคโนโลยีสหรัฐกับบริษัทจีนเหล่านี้จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพจีนเข้าถึงเทคโนโลยีผลิตชิปและปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.1% หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค.
ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินออมลดลง ท่ามกลางแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจพุ่งขึ้น 16.5%ในเดือนต.ค.
การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่การลดลงของสต็อกสินค้าคงคลัง บ่งชี้ถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อยอดขาย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการขั้นต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 21.45 น.ตามเวลาไทย