บรรดาผู้นำระดับสูงของจีนเปิดเผยว่าจะมุ่งความสนใจไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า โดยส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มจะลดการใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลัง
หลังบังคับใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวด 3 ปี รวมถึงการปราบปรามความเสี่ยงทางการเงินในตลาดอสังหาริมทรัพย์และจำกัดการเติบโตมากเกินไปของบริษัทแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต บัดนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนการควบคุมลง
ในที่ประชุมการทำงานเศรษฐกิจกลางประจำปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ? 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปธน.สีและเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสรายอื่น ๆ ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูการบริโภคและสนับสนุนภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายสำคัญสำหรับปีหน้านั้นเป็นการกระตุ้นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายมีแนวโน้มที่จะวางเป้าการขยายตัวของ GDP ที่ 5% ขึ้นไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภารกิจดังกล่าวถือเป็นภารกิจที่ท้าทาย เมื่อพิจารณาในแง่ที่ว่า ขณะนี้จีนมีแนวโน้มเผชิญยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นตลอดช่วงหลายเดือนข้างหน้า หลังยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมส่วนใหญ่ ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและธุรกิจยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์