โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปตามห้องค้าหลักทรัพย์ต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในศูนย์กลางการเงินของเซี่ยงไฮ้ ทำให้การซื้อขายที่เบาบางอยู่แล้ว ลดน้อยลงยิ่งขึ้นไปอีก และกดดันให้หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบต้องยกเลิกประชุมการตรวจสอบการขายหุ้นสาธารณะประจำสัปดาห์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารและบริษัทบริหารหลักทรัพย์จำนวนมากต้องหยิบแผนรับมือวิกฤตโควิด-19 ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ ซึ่งส่งผลให้ตลาดเงินและตลาดหุ้นจีนตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถคาดเดามากขึ้นไปอีก เพราะผลกระทบจากการยกเลิกมาตรการสกัดโควิด-19 แบบฉับพลัน
จีนยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่ ตามการยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากทางการเชื่อถือไม่ได้ ขณะที่ ผลสำรวจภายในจากบริษัทบริหารสินทรัพย์และธนาคารรายใหญ่บ่งชี้ว่า พนักงานกว่าครึ่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งติดเชื้อโควิด-19 โดยปักกิ่งถือเป็นศูนย์กลางการพุ่งขึ้นของผู้ติดเชื้อ
"เพื่อนร่วมงานกว่าครึ่งหนึ่งในปักกิ่งล้มป่วย เมื่อเทียบกับ 5% - 10% ในเซี่ยงไฮ้" ผู้จัดการกองทุนของบริษัทพีไอซีซี แอสเซต แมเนจเมนต์กล่าว
ในตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนนั้น ปริมาณการซื้อขายสกุลเงินหยวน/ดอลลาร์เฉลี่ยรายวันลดลงแตะที่ประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 อันเป็นช่วงที่เซี่ยงไฮ้เผชิญการล็อกดาวน์ 2 เดือน เพื่อป้องกันโควิด-19
ปริมาณการซื้อขายหุ้นในสัปดาห์ที่แล้วก็ลดลงเช่นเดียวกัน โดยปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมดบนกระดานดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตอยู่ที่ 1.39 แสนล้านหุ้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับ 3 ปีที่ผ่านมาที่ประมาณ 1.43 แสนล้านหุ้น
เทรดเดอร์ของบริษัทปล่อยสินเชื่อของรัฐบาลจีนรายหนึ่งกล่าวว่า เทรดเดอร์ในตลาดเงินส่วนใหญ่ในกรุงปักกิ่งไม่เข้าออฟฟิศ ดังนั้นปริมาณการซื้อขายจึงลดลงตามไปด้วย โดยบริษัทขอให้พนักงานที่พำนักอยู่กับผู้ที่เป็นไข้หรือติดเชื้อโควิด-19 หยุดเข้าออฟฟิศ
"แต่การซื้อขายนอกสำนักงานไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะคุณป่วยอยู่บนเตียงและคุณมีครอบครัวต้องดูแล" เทรดเดอร์กล่าว