ธนาคารโลกปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีและภาวะตกต่ำของภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ในรายงานคาดการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ (20 ธ.ค.) นั้น ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนสำหรับปี 2565 ลงสู่ 2. 7% ร่วงลงจาก 4.3% ในเดือนมิ.ย. ส่วนการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้านั้นได้ปรับลดลงจาก 8.1% เป็น 4.3%
ธนาคารโลกระบุในแถลงการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนยังคงเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นและลดลงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยโรคระบาดและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงนั้นตามมาด้วยการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอ
ส่วนอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงนั้นคาดว่าจะแตะ 2.7% ในปีนี้ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในปีหน้า หลังจากเปิดประเทศ
จีนได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากบังคับใช้อย่างเข้มงวดมาเกือบ 3 ปี แต่นโยบายการควบคุมโรคที่ยังใช้อยู่บวกกับอัตราการติดเชื้อที่ยังคงเพิ่มขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่กำลังเผชิญความยากลำบาก
ธนาคารโลกระบุด้วยว่า เศรษฐกิจจีนยังประสบกับความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในตลาดอสังหาริมทรัพย์ท่ามกลางการปราบปรามของรัฐบาลจีนกับการปล่อยสินเชื่อที่มากเกินไป