เศรษฐกิจจีนในปี 2566 มีแนวโน้มที่จะพลิกโฉมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมจากเมื่อปี 2562 โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวลงจากกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการปราบปราม การส่งออกชะลอตัวหลังพุ่งทะยาน เจดีดอทคอม อีคอมเมิร์ซจีนแซงหน้าหัวเว่ยในฐานะบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีนในปีนี้เมื่อวัดจากรายได้ หลังหัวเว่ยถูกสหรัฐคว่ำบาตร
ในเดือนพ.ย. จีนยกเลิกมาตรการสกัดโควิด-19 แบบกะทันหัน แม้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะยังคงมีอุปสรรคในการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ แต่ขณะนี้คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนนั้นจะแตกต่างไปจากเมื่อช่วง 3 ปีก่อน
นักวิเคราะห์ของ CICC วาณิชธนกิจชั้นนำของจีนระบุในรายงานคาดการณ์ปี 2566 เมื่อเดือนพ.ย.ว่า โครงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนนั้นเริ่มเปลี่ยนจากการเน้นพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน มาเป็นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นไปยังดิจิทัลและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยรายงานฉบับดังกล่าวอ้างอิงถึงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ที่ตอกย้ำเรื่องนวัตกรรม
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เศรษฐกิจดิจิทัลนั้นได้แก่ อุปกรณ์การติดต่อสื่อสาร การส่งข้อมูลผ่านตัวกลาง และซอฟต์แวร์ ขณะที่ เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหมายถึงอุตสาหกรรมที่ต้องลงทุนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น พลังงานไฟฟ้า เหล็กกล้า และสารเคมี
CICC ประมาณการว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้า การลงทุนรวมในเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นจะเติบโตขึ้นกว่า 7 เท่าแตะที่ 77.9 ล้านล้านหยวน (11.13 ล้านล้านดอลลาร์) แซงหน้าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิม เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ดิจิทัลมีสัดส่วนมากที่สุดจากทั้ง 4 ภาค