-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโก โดยให้สัญญาว่าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่กองทัพรัสเซียต้องการเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในยูเครน พร้อมระบุว่า ไม่มีข้อจำกัดทางการเงินสำหรับสิ่งที่รัฐบาลจะจัดสรรให้ ทั้งในแง่ของยุทโธปกรณ์และอาวุธหนัก
-- นายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธ (21 ธ.ค.) ว่า นางแคโรไลน์ เอลลิสัน อดีตแฟนสาวของนายแซม แบงค์แมน-ฟรีดและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอาลาเมดา รีเสิร์ช และนายแกรี หวัง ผู้ร่วมก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ให้การสารภาพในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงเงินผ่านระบบธนาคารต่อลูกค้า
-- เมืองต่าง ๆ ในประเทศจีนเริ่มแจกจ่ายยาลดไข้ให้กับประชาชน หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ โดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจเชื้อเป็นครั้งแรก หลังรัฐบาลยกเลิกการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบฉับพลันเมื่อมานานมานี้ เพื่อคลายความไม่พอใจของประชาชนที่รวมตัวกันออกมาประท้วงทั่วประเทศ
-- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้และสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะจัดการซ้อมรบร่วมด้วยกระสุนจริงครั้งแรกในรอบ 6 ปีในปี 2566 ท่ามกลางภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ
-- ลินน์ เทรซี นักการทูตของสหรัฐได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 93 ต่อ 2 จากทั้งสองพรรค ให้เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียคนใหม่ที่ว่างลงตั้งแต่เดือนก.ย. หลังจอห์น ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตฯคนก่อน เดินทางออกจากรัสเซียและประกาศว่าจะเกษียณ
-- เว็บไซต์ของเทสลา อิงค์ เปิดเผยว่า เทสลาเสนอมอบส่วนลดรถรุ่น Model 3 และรุ่น Model Y ที่มีกำหนดส่งมอบเดือนนี้ในสหรัฐและแคนาดา ท่ามกลางความกังวลว่าความต้องการรถเทสลาจะลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว
-- นายทอม จู ประธานเทสลาประจำประเทศจีน และทีมงาน ถูกดึงตัวไปช่วยแก้ปัญหาการผลิตที่โรงงานในสหรัฐ ทำให้เกิดข่าวลือสะพัดในหมู่เพื่อนร่วมงานว่านายจูอาจกำลังจะได้เลื่อนขั้น หลังจากที่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ยังคงวุ่นวายอยู่กับทวิตเตอร์
-- ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ ผู้ผลิตชิปของสหรัฐคาดการณ์เมื่อวันพุธ (21 ธ.ค.) ว่า บริษัทจะเผชิญภาวะขาดทุนมากกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้อย่างมากสำหรับช่วงไตรมาส 2 ซึ่งตรงกับเดือนธ.ค. 2565 ? ก.พ. 2566 พร้อมประกาศว่าจะปลดพนักงาน 10% ในปีหน้า โดยระบุถึงปัญหาอุปทานชิปเซมิคอนดักเตอร์ล้นตลาด
-- กลุ่มวุฒิสมาชิกจากทั้งสองพรรคเสนอร่างกฎหมายในวันพุธ (21 ธ.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความโปร่งใสสำหรับแพลตฟอร์มของทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังหารือกันว่าควรแบนติ๊กต๊อก (TikTok) หรือไม่