บิตคอยน์ร่วงลงเกือบ 1% ใกล้หลุดระดับ 16,600 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานดีกว่าคาด
ณ เวลา 22.57 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 0.93% สู่ระดับ 16,622.85 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวกว่า 400 จุด หลุดระดับ 33,000 จุดในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานดีกว่าคาด
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 222,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 1.672 ล้านราย
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานเตือนก่อนหน้านี้ว่า บิตคอยน์อาจดิ่งลงแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า
"แรงเทขายบิตคอยน์จะรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทคริปโทฯ และกระดานเทรดจำนวนมากเผชิญกับการขาดแคลนสภาพคล่อง ทำให้เกิดการล้มละลายมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล" รายงานระบุ
บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2565 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด
นอกจากนี้ บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 17,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากที่ Mazars Group ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก ประกาศระงับการให้บริการต่อลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึง Binance, KuCoin และ Crypto.com
ทั้งนี้ บิตคอยน์ได้ทรุดตัวลงมากกว่า 60% ในปีนี้ หลังการล้มละลายของ FTX, BlockFi รวมทั้งกองทุน Three Arrows Capital ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการฟอกเงิน