นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) ในวันนี้ว่า การที่ BOJ ตัดสินใจขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่การเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy)
"ภายใต้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control Policy) นั้น BOJ จะคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการปรับขึ้นค่าจ้าง ผมยืนยันว่าการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไม่ใชการส่งสัญญาณเตรียมตัวถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างแน่นอน" นายคุโรดะกล่าว
ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะส่งสัญญาณใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินและเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน
ทั้งนี้ นายคุโรดะกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงกลไกลตลาด หลังจากความผันผวนในตลาดการเงินปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายคุโรดะยังกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ BOJ จะหารือกันเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน เมื่อพิจารณาจากการที่ BOJ ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึงนายมาซามิชิ อาดาชิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นจากบริษัทยูบีเอส ซิเคียวริตีส์กล่าวว่า การที่นายคุโรดะสร้างปรากฏการณ์ช็อกตลาดด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนั้น เป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทราบว่า BOJ มีแผนที่จะยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ และอาจปูทางสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า