นายอเล็กซี ซาบอตคิน รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อาร์บีซีของรัสเซียในวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า ธนาคารกลางรัสเซียอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 หากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อเช่นภาวะขาดแคลนแรงงานและมาตรการควบคุมการส่งออก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ
ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 7.5% แต่ธนาคารกลางได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่า การที่รัสเซียระดมกำลังทหารเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ภาวะขาดแคลนแรงงานทวีความรุนแรงมากขึ้น
"หากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพที่ระดับ 4% ภายในปี 2567 เราก็จะทำเช่นนั้น" นายซาบอตคินกล่าว
ทั้งนี้ รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อสู้, ภาวะขาดแคลนแรงงาน, ปัญหาติดขัดด้านโลจิสติกส์, การขาดดุลงบประมาณที่สูงกว่าคาด และวิกฤตเศรษฐกิจในต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย
"ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลให้รัสเซียเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรง และปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีความเป็นไปได้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปี 2566" เขากล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งระบุว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีโอกาสน้อยมากที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือเป้าหมายของธนาคารกลางต่อไป