สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีน (CAICT) รายงานว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนของจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวลง 22% เนื่องจากผลกระทบของอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลงและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นในภาคการผลิตของจีน
ข้อมูลจาก CAICT ระบุว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.ปีนี้อยู่ที่ 214.5 ล้านเครื่อง ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 275.3 ล้านเครื่อง โดย CAICT เป็นสถาบันวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน
ส่วนในเดือนต.ค.เพียงเดือนเดียวนั้น ยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนของจีนปรับตัวลง 27.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 23.8 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าในเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 20% แตะที่ระดับ 19.8 ล้านเครื่อง
ข้อมูลล่าสุดของ CAICT สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดสมาร์ตโฟนของจีนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์นั้น ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคพากันชะลอซื้อสมาร์ตโฟนใหม่
ทางด้านไอดีซี (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีเปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ตลาดสมาร์ตโฟนของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อยในปี 2566 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในปี 2567 เนื่องจากการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเศรษฐกิจจีนนั้น อาจจะต้องใช้เวลานาน