นายแอนตัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียอาจขาดดุลงบประมาณมากกว่าที่วางแผนไว้ที่ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2566 เนื่องจากการจำกัดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียทำให้รายได้จากการส่งออกลดลง นับเป็นปัญหาทางการคลังพิเศษของรัสเซียหลังใช้เงินไปอย่างมากในการทำสงครามในยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียระบุว่า การจำกัดเพดานราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันมันดิบและน้ำมันกลั่นของรัสเซียอาจทำให้การผลิตน้ำมันของรัสเซียลดลง 5-7% ในต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม นายซิลูอานอฟให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามภาระผูกพันในการใช้จ่าย โดยจะใช้เงินจากการกู้ยืมและกองทุนสะสมฉุกเฉินตามความจำเป็น
นายซิลูอานอฟระบุว่า อาจมีการปรับลดปริมาณการส่งออกพลังงาน เนื่องจากบางประเทศกีดกันรัสเซีย และรัสเซียพยายามมองหาตลาดใหม่ ๆ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะกำหนดผลตอบแทนการส่งออกของรัสเซีย
นายซิลูอานอฟกล่าวว่า หากปริมาณส่งออกลดลง รัสเซียจะมีเงินทุนเพิ่มเติมจาก 2 แหล่ง ได้แก่ การกู้ยืมเงิน และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (NWF) ซึ่งสะสมเงินสำรองของรัฐไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียกู้ยืมเงินจำนวนมากในไตรมาสปัจจุบันหลังขาดแคลนเงินทุนมาเป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากการตัดสินใจส่งกำลังทหารหลายหมื่นนายเข้ารุกรานยูเครน โดยปัจจุบัน รัสเซียคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 2 ล้านล้านรูเบิล (2.924 หมื่นล้านดอลลาร์) จาก NWF ในปี 2565 เนื่องจากการใช้จ่ายทั้งหมดเกิน 30 ล้านล้านรูเบิล ซึ่งมากกว่าแผนเบื้องต้นของปีนี้แล้ว