หุ้นเทสลาเผชิญแรงเทขายรุนแรงยิ่งขึ้นในวันอังคาร (27 ธ.ค.) ด้วยการปิดลบ 11% โดยมีแนวโน้มทำผลงานย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ไม่ว่าจะเป็นการเทียบแบบรายเดือน รายไตรมาส หรือแม้กระทั่งรายปี ทั้งยังจ่อขึ้นแท่นหุ้นที่ทรุดตัวหนักที่สุดในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในปี 2565 แทนที่บริษัทเมตา เจ้าของเฟซบุ๊ก
การปรับตัวลงครั้งล่าสุดของหุ้นเทสลามีขึ้นหลังจากเทสลาประกาศลดการผลิตรถยนต์ในโรงงานเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของเทสลา หลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก
ทั้งนี้ เทสลาจะผลิตรถยนต์ในอัตราที่ลดลงในโรงงานดังกล่าวในช่วงวันที่ 3-19 ม.ค. 2566 ก่อนที่จะยุติการผลิตในช่วง 20-31 ม.ค. 2566 ซึ่งตรงกับเทศกาลตรุษจีน ตามแนวทางปฏิบัติของทางบริษัท โดยนครเซี่ยงไฮ้เผชิญการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเดือนนี้
หุ้นเทสลาร่วงลง 73% จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนพ.ย. 2564 และหุ้นดังกล่าวลดลง 69% ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าการลดลงของดัชนี Nasdaq กว่าเท่าตัว ส่วนหุ้นฟอร์ดปรับตัวลง 46% และหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ร่วง 43% โดยนับตั้งแต่เปิดเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในปี 2553 หุ้นเทลลาก็ปรับตัวลงเพียงปีเดียว โดยลดลง 11% ในปี 2559