อิตาลีจะเริ่มต้นตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับนักเดินทางทั้งหมดที่มาจากจีน และต้องการให้ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ดำเนินมาตรการเดียวกัน หลังจากที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเกือบครึ่งหนึ่งบนเที่ยวบิน 2 เที่ยวที่เดินทางจากจีนมาถึงสนามบินเมืองมิลาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในเมืองมิลานเปิดเผยว่า ผู้โดยสารเกือบครึ่งหนึ่งบนเที่ยวบิน 2 เที่ยวจากประเทศจีนมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยแบบไม่แสดงอาการของโรค
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเผชิญกับการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 นับตั้งแต่รัฐบาลยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวด ทำให้หลายประเทศเร่งออกมาตรการรับมือ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรค โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐออกแถลงการณ์ในวันพุธ (28 ธ.ค.) ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะกำหนดให้ผู้โดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากจีนจะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR เป็นลบ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2566
นายโอราซีโอ สกีลลาชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิตาลีระบุเมื่อวานนี้ว่า ไม่คิดว่าจะตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มผู้โดยสารบนเที่ยวบินทั้ง 2 ลำที่มาจากจีน โดยอิตาลีเป็นประเทศในยุโรปแห่งแรกที่เผชิญกับโรคโควิด-19 ระบาดอย่างหนักเมื่อต้นปี 2563
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพยังคงวิตกกังวลเรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จนกว่าผลตรวจหาสายพันธุ์ไวรัสจากการถอดรหัสพันธุกรรมจะได้รับการเปิดเผยในวันนี้ (29 ธ.ค.)
"การทดสอบดังกล่าวมีความสำคัญต่อการค้นหาว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นแล้วหรือไม่ โดยเราได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการด้านสุขภาพของ EU เพื่ออธิบายการตัดสินใจของเรา และขอให้ตกลงดำเนินการทดสอบลักษณะเดียวกัน" นายสกีลลาชีกล่าว
ขณะที่อังกฤษระบุว่า จะทบทวนให้แน่ใจว่ามีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่จำเป็น แต่ไม่ได้วางแผนที่จะบังคับให้นักเดินทางที่มาจากจีนต้องตรวจหาเชื้อ ส่วนนายเซบาส เตียน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีระบุว่า เยอรมนีกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสก็กำลังจับตาสถานการณ์เช่นเดียวกัน โดยระบุว่าฝรั่งเศสพร้อมใช้มาตรการที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธมิตรยุโรป