สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มลูกค้าของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) นอกสหรัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อผู้พิพากษาศาลล้มละลายสหรัฐไม่ให้เปิดเผยชื่อของตนเอง ในคดีล้มละลายของ FTX โดยระบุว่า การเปิดเผยตัวตนของพวกเขาอาจทำให้เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกหลอกลวงอื่น ๆ
ปกติแล้วบริษัทที่ล้มละลายมักจะเปิดเผยชื่อและจำนวนหนี้ที่เจ้าหนี้ของตัวเองมี รวมถึงลูกค้ารายบุคคลด้วย แต่ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อคืนวันพุธ (28 ธ.ค.) กลุ่มลูกค้าของ FTX นอกสหรัฐ ซึ่งระบุว่า FTX ติดหนี้พวกเขาอยู่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ได้แจ้งกับนายจอห์น ดอร์ซีย์ ผู้พิพากษาศาลล้มละลายของสหรัฐว่าคดีนี้ต่างออกไป
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าที่ยื่นคำร้องยังได้เตือนว่าการเปิดเผยชื่อพวกเขาอาจเป็นผลเสียต่อความพยายามของ FTX ในการขายธุรกิจบางส่วนเพื่อนำเงินมาจ่ายคืนเจ้าหนี้
"ผู้ถือสกุลเงินคริปโทฯ มักจะอ่อนไหวต่อการฉ้อโกงและการถูกขโมยเป็นพิเศษ เพราะการติดตามสกุลเงินคริปโทฯนั้นเป็นเรื่องยาก อีกทั้งยังมีมาตรการปกป้องสินทรัพย์ชนิดดังกล่าวน้อยกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมชนิดอื่น ๆ" กลุ่มผู้เสียหายระบุ
ขณะเดียวกัน ทาง FTX เองก็กำลังพยายามขอให้มีการปกปิดชื่อลูกค้าของตนเองเป็นความลับเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คำขอดังกล่าวถูกคัดค้านจากหน่วยงานด้านการล้มละลายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ รวมถึงสื่อต่าง ๆ เช่น นิวยอร์กไทม์ส และวอลล์สตรีทเจอร์นัล
ความเป็นส่วนตัวของลูกค้านับเป็นปัญหาในคดีล้มละลายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ เช่นกัน โดยในเดือนต.ค. ผู้พิพากษาที่ทำคดีการล้มละลายของเซลเซียส เน็ตเวิร์ก (Celsius Network) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ ได้ตัดสินให้ต้องเปิดเผยชื่อลูกค้า แต่จะปกปิดที่อยู่และอีเมลของลูกค้าเป็นความลับ