เศรษฐกิจจีนปิดฉากปี 2565 ทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากกิจกรรมในภาคธุรกิจและการใช้จ่ายผู้บริโภคดิ่งลงในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับอุปสรรคเพิ่มอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นทั่วประเทศ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันเสาร์ (31 ธ.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.อยู่ที่ 47.0 ลดลงจากระดับ 48.0 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48.0
ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการผลิต หลังจากรัฐบาลจีนสั่งยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดอย่างฉับพลัน
ส่วนเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) บริษัท CBB International ได้ออกรายงาน China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจีนบ่งชี้ว่า ภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก
รายงาน China Beige Book ยังระบุด้วยว่า ดัชนีชี้วัดรายได้ ยอดขาย และการจ้างงานของบริษัทในภาคการผลิตและภาคบริการปรับตัวลงในไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสและเทียบเป็นรายปี พร้อมระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของจีนอาจขยายตัวเพียง 2% เท่านั้นในปี 2565
ทางการจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างฉับพลันในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองสำคัญของจีนพุ่งขึ้นอย่างมาก และจากนั้นไม่นาน จีนได้ประกาศเปิดประเทศทั้งขาเข้าและขาออก โดยยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 นอกจากนี้ จีนจะกลับมาดำเนินการออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักวิเคราะห์ต่างก็กังวลว่าการที่จีนเปิดประเทศในช่วงเวลาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงย่ำแย่นั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจจีนอ่อนแอลงอีก จากปัจจุบันที่ชะลอตัวลงอย่างมากเนื่องจากผลพวงของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 รวมทั้งการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อุปสงค์สินค้าจีนในตลาดต่างประเทศที่ซบเซาลง และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของบลูมเบิร์กประมาณการว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวเพียง 3% เท่านั้นในปี 2565 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นในช่วงปลายปี 2566 โดยคาดว่าหลังจากผ่านพ้นความอ่อนแอในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ไปแล้ว เศรษฐกิจจีนตลอดปี 2566 จะขยายตัว 4.8%
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จับตาการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือนธ.ค.จากไฉซินในวันนี้ เวลาประมาณ 08.45 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49 จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย.