ผลสำรวจทางธุรกิจบ่งชี้ในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า กิจกรรมการผลิตของโรงงานในญี่ปุ่นลดลงในเดือนธ.ค. 2565 ในอัตรารุนแรงที่สุดในรอบ 26 เดือน โดยบริษัทต่าง ๆ คาดการณ์ว่า การผลิตจะยังคงลดลงต่อไปท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของญี่ปุ่นที่จัดทำโดยธนาคาร au Jibun Bank Japan ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.9 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 49.0 ในเดือนพ.ย.
แม้ว่าดัชนีดังกล่าวจะอยู่ที่สูงกว่าระดับดัชนีในขั้นต้นที่ 48.8 อยู่เล็กน้อย แต่ก็เป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 และเป็นเดือนที่ 2 แล้วที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นจุดแบ่งระหว่างการขยายตัวกับการหดตัว โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต และดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัว
ลอรา เดนแมน นักเศรษฐศาสตร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Market Intelligence) ซึ่งจัดทำการสำรวจระบุว่า ภาวะชะลอตัวมีสาเหตุหลักมาจากภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอในปัจจุบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่หดตัวเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนธ.ค. 2565 แม้ในอัตราที่ช้ากว่าในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของราคาวัตถุดิบลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มของบริษัทญี่ปุ่นจะซบเซามากขึ้นในช่วงต้นปี 2566
บรรดาผู้ผลิตคาดการณ์ว่า ภาวะธุรกิจจะตกต่ำลงอีก โดยดัชนีย่อยของผลผลิตในอนาคตแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. เนื่องจากการล็อกดาวน์โควิด-19 ของจีนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของบริษัทญี่ปุ่น