นายกรัฐมนตรีซู เจิงชางของไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า ไต้หวันมีแผนแจกเงินสดมูลค่าเกือบ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,821.40 บาท) ให้แก่พลเมืองทุกคนในปีนี้ โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไต้หวันจะถูกแบ่งปันให้กับทุกคน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจไต้หวันซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก และเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์นั้น เติบโตขึ้น 6.45% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุด นับตั้งแต่ขยายตัวที่ระดับ 10.25% ในปี 2553
ในขณะที่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงปี 2565 และ 2566 นั้น รัฐบาลไต้หวันได้วางแผนที่จะนำภาษีที่เก็บได้เพิ่มเติม 3.80 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากเมื่อปีที่แล้ว กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อช่วยปกป้องไต้หวันจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการอุดหนุนค่าไฟ ค่าแรง และค่าประกันสุขภาพ
นายซูกล่าวว่า ทางการจะนำเงินส่วนหนึ่งของภาษีข้างต้นจำนวน 1.40 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน มาแจกจ่ายเป็นเงินสดให้แก่พลเมืองแต่ละคน โดยแต่ละคนจะได้รับเงินราว 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (195.61 ดอลลาร์สหรัฐ)
นายซูกล่าวกับนักข่าวว่า "ผลที่เกิดจากความสำเร็จทางเศรษฐกิจจะถูกแบ่งปันไปสู่พลเมืองทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่" พร้อมเสริมว่า การแจกจ่ายเงินในครั้งนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าถือครองเสียงข้างมาก
"เราปรารถนาที่จะมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนหลังเริ่มต้นเทศกาลตรุษจีน" นายซูกล่าว โดยอ้างอิงถึงวันเทศกาลวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ที่จะเริ่มต้นวันที่ 20 ม.ค.
ทั้งนี้ ไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ทุกชนิด ตั้งแต่รถยนต์และสมาร์ตโฟนไปจนถึงเครื่องบินรบ โดยเศรษฐกิจของไต้หวันเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปที่แข็งแกร่งสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค เนื่องจากผู้คนทำงานจากที่บ้านมากขึ้น