เจเนซิส เทรดดิ้ง (Genesis Trading) ซึ่งให้บริการปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีในเครือของดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป (Digital Currency Group) ของนายแบร์รี ซิลเบิร์ตนั้น ได้ปรับลดจำนวนพนักงานลง 30% เนื่องจากบริษัทเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากบรรดาเจ้าหนี้กดดันมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะล้มละลาย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานได้อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า พนักงานประมาณ 60 ตำแหน่งได้ถูกเลิกจ้าง และในปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 145 คน โดยการลดจำนวนพนักงานครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากนายเดราร์ อิสลิม ซีอีโอชั่วคราวของเจเนซิส เทรดดิ้งได้บอกกับลูกค้าว่า เจเนซิสต้องการเวลาเพิ่มอีกเพื่อแก้ไขวิกฤตการเงิน
เจเนซิสได้เลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 20% และเมื่อปีที่แล้วก็มีการเปลี่ยนตัวซีอีโอ
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีของนายซิลเบิร์ตซึ่งได้แก่ เกรย์สเกล บิตคอยน์ ทรัสต์ (Greyscale Bitcoin Trust - GBTC) และ ฟาวน์ดรี (Foundry) บริษัทเหมืองขุดคริปโทฯ ได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนของตลาดคริปโทฯ ในปี 2565 และการล้มละลายของทรีแอร์โรว์แคปิทอล (Three Arrows Capital) ซึ่งเป็นกองทุนประกันความเสี่ยงด้านคริปโทฯ
เจเนซิส เทรดดิ้งได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการล้มละลายในเวลาไม่นานหลังจากเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และ อลาเมดา รีเสิร์ช (Alameda Research) ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ในเครือประสบกับภาวะล้มละลาย
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า เจเนซิสได้ขอกู้เงินฉุกเฉินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์เพียงไม่นาน หลังจากอลาเมดาซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเจเนซิสล้มละลาย และเจเนซิสได้ระงับการไถ่ถอนของลูกค้าทั้งหมด หลังจากเอฟทีเอ็กซ์ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา