บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยในวันนี้ (6 ม.ค.) ว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 มีแนวโน้มร่วงลง 69% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 4.3 ล้านล้านวอน (3.4 พันล้านดอลลาร์) จากระดับ 13.87 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4 ของปี 2564 เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์ชิป, อุปกรณ์มือถือ และเครื่องใช้ภายในบ้าน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ หากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานของซัมซุงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5 ล้านล้านวอนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี หลังจากที่บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ระดับ 4.06 ล้านล้านวอนในไตรมาส 3 ของปี 2557
"สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอน ขณะที่ยอดขายชิปก็ทรุดตัวลงอย่างมาก เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลงจากกลุ่มลูกค้าเซิร์ฟเวอร์, ดาตาเซนเตอร์ และตลาดอุปกรณ์มือถือ นอกจากนี้ บรรดาซัพพลายเออร์ชิป ซึ่งรวมถึงซัมซุง, เอสเค ไฮนิกซ์ และไมครอนเทคโนโลยี ต่างก็ทำการปรับสต็อกสินค้าในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งยิ่งทำให้ราคาชิปปรับลดลงอีก" ซัมซุงระบุในแถลงการณ์
ซัมซุงเปิดเผยว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนและเครื่องใช้ภายในบ้านปรับตัวลงเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะถดถอยลงในปีนี้ โดยคาดว่ายอดขายในไตรมาส 4/2565 จะลดลง 8.6% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 70 ล้านล้านวอน จากระดับ 76.57 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4 ของปี 2564
ส่วนตลอดปีงบการเงิน 2565 นั้น ซัมซุงคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลง 16% แตะที่ 43.37 ล้านล้านวอน จากระดับ 51.63 ล้านล้านวอนในปีงบการเงิน 2564
ทั้งนี้ บริษัทซัมซุงมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค.นี้