นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจฟฟ์ กริลส์ จากบริษัทเอกอน แอสเซท แมเนจเมนท์ (Aegon Asset Management) ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า เหตุการณ์ไม่สงบและภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในบราซิลจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นและตลาดการเงินของบราซิลในวันนี้
กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตปธน.บราซิลฝ่ายขวาจัด บุกเข้าไปในรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาของประเทศเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) เพื่อต่อต้านผลการเลือกตั้ง หลังจากนายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำฝ่ายซ้ายคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งปธน.บราซิลในเดือนต.ค. 2565
กลุ่มผู้ประท้วงสวมชุดสีเหลืองและสีเขียวได้ก่อจลาจลไปทั่วเมืองหลวงของบราซิล ซึ่งเป็นผลพวงของความตึงเครียดตลอดหลายเดือนหลังจากวันเลือกตั้ง เนื่องจากนายโบลโซนารูไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยกล่าวอ้างว่าระบบการลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของบราซิลมีแนวโน้มที่จะเกิดการฉ้อโกง และจุดประกายให้เกิดความเคลื่อนไหวรุนแรงของกลุ่มผู้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ปธน.ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แถลงว่าทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล และจะทำการควบคุมสถานการณ์ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงของบราซิลเปิดตัวย่ำแย่ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 โดยดัชนีตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนักในช่วง 2 วันแรกของการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะ และความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ "ความวุ่นวายทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นจะไม่เป็นผลดีต่อตลาดการเงินของบราซิล เราคาดว่าการจลาจลมีแนวโน้มที่จะทำให้สกุลเงินของบราซิลอ่อนค่าลงมากที่สุด และคาดว่าราคาพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์และสกุลเงินบราซิลจะร่วงลงด้วย" นักวิเคราะห์กล่าว