เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ประเทศต่าง ๆ แนะนำผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยในเที่ยวบินระยะไกล อันเนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยล่าสุดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ กำลังวางแผนที่จะเริ่มใช้หน้าจออุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile device display) ที่บริษัทผลิตขึ้นเองภายในปี 2567 ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดการพึ่งพาบรรดาบริษัทคู่ค้าซึ่งรวมถึงซัมซุงและแอลจี และมีเป้าหมายที่จะผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ขึ้นเองในองค์กร
-- บริษัทฟาสต์ รีเทลลิง โค เจ้าของแบรนด์ยูนิโคล่ออกมาประกาศว่า จะปรับขึ้นเงินเดือนรายปีให้กับพนักงานประจำในญี่ปุ่นสูงถึง 40% เพื่อรับมือปัญหาเงินเฟ้อในประเทศ โดยพนักงานประจำตามสำนักงานใหญ่และร้านค้าสาขาต่าง ๆ ของบริษัทล้วนเข้าเกณฑ์การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้
-- ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อวันอังคาร (10 ม.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา หรือ EMDE ชะลอตัวลงอย่างหนักในปี 2565 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นทั่วโลกและผลกระทบจากกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน
-- หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 7.2% และอัตราเงินเฟ้อจะแตะ 5.5% ในปีนี้
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า บริษัทบีโออี เทคโนโลยี กรุ๊ป (BOE Technology Group) วางแผนทุ่มเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตหน้าจอแสดงผลของจีน ทั้งยังเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ และซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
-- สถานีวิทยุฟรานซ์ บลู (France Bleu) รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายชายรายหนึ่งใช้อาวุธมีดบุกไล่แทงผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟกาดูโน (Gare du Nord) ในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสในช่วงเช้าวันนี้ (11 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
-- สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนระบุในวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า จีนได้ระงับการยกเว้นวีซ่าสำหรับพลเมืองเกาหลีใต้และญี่ปุ่นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยถือเป็นการตอบโต้มาตรการกีดกันนักเดินทางจากจีนที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเพิ่งประกาศบังคับใช้ไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังรัฐบาลจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้ครั้งที่สอง หลังจากเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) จีนเพิ่งประกาศระงับการออกวีซ่าระยะสั้นสำหรับธุรกิจ การท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล และกิจการส่วนตัวทั่วไปของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น