สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (12 ม.ค.) ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และได้ช่วยชดเชยยอดการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ลดลง
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลสินค้าและบริการพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (9.13 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ย. จาก 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยอดส่งออกลดลง 0.4% เนื่องจากการลดลงอย่างมากของรายได้จาก LNG เนื่องจากราคาและปริมาณลดลง ซึ่งบดบังรายได้จากการส่งออกแร่เหล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่วนยอดนำเข้าลดลง 1.5% โดยลดลงทั้งสินค้าเพื่อการบริโภคและสินค้าทุน และบริการด้านการขนส่ง
เศรษฐกิจออสเตรเลียได้รับแรงกดดันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและทางธุรกิจเป็นอย่างมาก เศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าที่คาดในไตรมาส 3/2565 เนื่องจากการฟื้นตัวหลังโควิดดูเหมือนจะชะลอลง
แต่ยอดการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยแร่โลหะและถ่านหินจำนวนมากของออสเตรเลียนั้นถูกส่งออกไปยังจีน
ทั้งนี้ จีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากปิดประเทศมาเกือบ 3 ปี ซึ่งก่อให้เกิดมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในที่สุดหลังจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเนื่องมาจากโรคโควิด-19