นักวิเคราะห์คาดว่าปี 2566 เศรษฐกิจและตลาดหุ้นของยุโรปอาจทำผลงานได้ดีกว่าของสหรัฐ โดยสหรัฐในปีนี้ส่อเค้าไม่ราบรื่นและจะเผชิญกับความยากลำบากเหมือนปีที่แล้ว
เซย์เนป ออซเติร์ก-อุนลู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ของดอยช์แบงก์ มองว่า ยุโรปมีแนวโน้มจะที่ทำผลงานได้ดีกว่าทั้งในด้านเศรษฐกิจและตลาดทุน โดยการหดตัวและภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นที่น่าวิตกว่าจะเกิดขึ้นในสหรัฐมากกว่าในยุโรป
ออซเติร์ก-อุนลู กล่าวว่า ยุโรปจะดีกว่าสหรัฐ แม้ยุโรปจะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เช่น สงครามในยูเครน วิกฤตพลังงาน และอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่ผ่านระดับสูงสุด และคาดว่ายังไม่มีแนวโน้มจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรปตั้งไว้ที่ 2% จนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2567 เป็นอย่างน้อย
ออซเติร์ก-อุนลู กล่าวในรายการ "Squawk Box Europe" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (9 ม.ค.) ว่า "ยุโรปใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะเนื่องจากวิกฤตด้านพลังงาน แต่นอกเหนือจากนั้น ... ยุโรปกำลังเดิมพันกับการเปิดประเทศของจีนและคาดว่ามันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของยุโรป"
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของยุโรปแซงหน้าสหรัฐครั้งล่าสุดในปี 2560 แม้ว่าตัวเลขสุดท้ายของปี 2565 จะยังไม่มีการเปิดเผยก็ตาม