สำนักข่าวเจแปนไทม์สรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ระบุในวันเสาร์ (14 ม.ค.) ว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนคำแนะนำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร หลังโรคโควิด-19 ระบาดในประเทศนาน 3 ปี
ทั้งนี้ กระแสข่าวเรื่องการเปลี่ยนนโยบายสวมหน้ากากอนามัยในอาคารนี้มีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังหารือกันเรื่องลดระดับการจัดหมวดหมู่โรคโควิด-19 ให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล โดยคาดว่าต่อไปรัฐบาลจะแนะนำให้เฉพาะบุคคลที่ป่วยแบบแสดงอาการของโรคเท่านั้นที่ควรสวมหน้ากากอนามัย
ในมาตรการต่อต้านโรคโควิด-19 ที่มีการปรับเปลี่ยนในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้ง หากไม่ได้สนทนากับบุคคลอื่น แต่ยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคาร ยกเว้นในกรณีที่มีการรักษาระยะห่างทางสังคม 2 เมตรขึ้นไปและไม่ได้สนทนากับบุคคลอื่น
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาผ่อนปรนข้อเสนอแนะสำหรับการสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อลดระดับโรคโควิด-19 มาเป็นโรคระดับ 5 (Class 5) มาตรการต่อต้านโรคก็ควรเทียบเท่ากับโรคระดับ 5 เช่นกัน โดยปัจจุบันโรคโควิด-19 ถูกจัดอยู่ในระดับ 2 (Class 2)