นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีนั้น มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าจะกระตุ้นการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
"เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ดังนั้นเราจึงต้องพยายามปรับให้ลดลงในปีนี้ และผมเชื่อว่ามันจะลดลงได้" นายมาร์กอสกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ที่ผ่านมา
นายมาร์กอส ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรของฟิลิปปินส์ด้วยนั้น กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตเพื่อลดการนำเข้า ซึ่งจะต้องทำให้ได้มากกว่านี้ ท่ามกลางปัญการขาดแคลนอาหารหลายอย่าง เช่น หัวหอมและน้ำตาล ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ หัวหอมในฟิลิปปินส์มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 650 เปโซ (11.84 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งแพงกว่าเนื้อวัวและเนื้อสัตว์ปีกเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (16 ม.ค.) ว่า ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศอาทิเช่น พายุไต้ฝุ่นและการกักตุนสินค้าได้ส่งผลให้ภาวะชะงักงันของสินค้าโภคภัณฑ์ในฟิลิปปินส์ยิ่งย่ำแย่ลง ทำให้ฟิลิปปินส์ต้องกู้ยืมเงินมากที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษในปีที่แล้ว
นายมาร์กอสกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้วางแผนที่จะแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรอย่างเต็มตัว พร้อมระบุว่า"เมื่อปัญหานี้ได้รับการแก้ไข เมื่อนั้นเราก็จะมีระบบที่เข้าที่เข้าทาง" โดยรัฐบาลยังคงจะต้องจัดการกับการลักลอบนำเข้าและปรับปรุงสำนักงานศุลกากรให้ทันสมัยเพื่อช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์คิดเป็นอัตรา 40% ของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในฟิลิปปินส์