สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประชากรที่ร่ำรวยที่สุด 1% ของโลกมั่งคั่งขึ้นรวดเร็วกว่าประชากรกลุ่มอื่น ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
อ็อกซ์แฟม (Oxfam) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของอังกฤษเปิดเผยผ่านรายงานความเหลื่อมล้ำประจำปีเมื่อวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ว่า กลุ่มมหาเศรษฐี 1% ของโลกครอบครองความมั่งคั่งที่มีการสร้างขึ้นมาใหม่เกือบ 2 เท่าของประชากรอีก 99% ของโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินของกลุ่มมหาเศรษฐี 1% เพิ่มมากขึ้นถึง 26 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ประชากรอีก 99% มีความมั่งคั่งสุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 16 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น
นอกจากนี้ บรรดาอภิมหาเศรษฐีมีความร่ำรวยเพิ่มมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยเมื่อพิจารณาจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คนกลุ่มนี้ครอบครองความมั่งคั่งครึ่งหนึ่งจากความมั่งคั่งทั้งหมดที่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อเทียบกับสัดส่วน 2 ใน 3 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
รายงานฉบับนี้ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ ได้รับการเผยแพร่ในช่วงเดียวกับการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดและผู้นำระดับโลก
ขณะเดียวกัน ประชากรที่มีทรัพย์สินน้อยจำนวนมากกำลังดิ้นรนอย่างหนัก โดยมีแรงงานประมาณ 1.7 พันล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วกว่าค่าจ้าง ขณะที่ การแก้ไขปัญหาความยากจนดูเหมือนหยุดชะงักไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนคนจนทั่วโลกพุ่งทะยานขึ้นในปี 2563
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความร่ำรวยของบรรดามหาเศรษฐีระดับโลกจะลดลงไปบ้างในช่วงปีที่ผ่านมา แต่พวกเขายังคงมั่งคั่งมากกว่าในช่วงที่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่า ความมั่งคั่งสุทธิของเหล่ามหาเศรษฐีอยู่ที่ 11.9 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 แม้ว่าจะลดลงไปเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2564 แต่ก็ยังสูงกว่าระดับ 8.6 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. 2563