นายเบนจามิน ดิออกโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเติบโตเร็วกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.5%-7.5% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 6.5% เนื่องจากภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ระบบธนาคารที่มีเสถียรภาพ และอัตราการว่างงานต่ำเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายดิออกโนกล่าวในงานประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) จากเมืองดาวอสในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ โดยเตือนว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในปี 2566
อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงจากสำนักงานสื่อสารของปธน.มาร์กอสที่เผยแพร่ในวันนี้ (17 ม.ค.) ระบุว่า ฟิลิปปินส์ยังคง "เป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"
นายดิออกโนกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของฟิลิปปินส์สามารถบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้ และการให้ภาคเศรษฐกิจเปิดรับทุนต่างชาติจะสามารถรักษาการเติบโตต่อไปได้ ส่วนรัฐบาลมีแผนจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างน้อย 5-6% ของ GDP
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่า GDP ของฟิลิปปินส์จะเติบโตที่ระดับ 6.5%-8% ในปี 2566 แต่ต่อมาได้ปรับลดการคาดการณ์ลงเหลือ 6%-7% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกแย่ลงและภาวะเงินเฟ้อในประเทศแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี จากนั้นจึงปรับคาดการณ์ขึ้นมาอยู่ที่ 6.5%-7.5% ในปัจจุบัน
อนึ่ง ฟิลิปปินส์จะเปิดเผยข้อมูล GDP อย่างเป็นทางการสำหรับไตรมาส 4/2565 ในวันที่ 26 ม.ค.