สิงคโปร์คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้วแตะที่ระดับ 12-14 ล้านคนในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากการตัดสินใจของจีนที่ยกเลิกมาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ
การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) เปิดเผยในวันอังคาร (17 ม.ค.) ว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินสะพัดได้มากถึง 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ 6.3 ล้านคน ส่วนในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่นโยบายการเดินทางทั่วโลกเข้มงวดที่สุดนั้น สิงคโปร์เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 330,000 คน
นางจูเลียนา กัว ผู้ช่วยซีอีโอของ STB กล่าวว่า ในปีที่แล้ว สิงคโปร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกินเป้าหมาย ด้วยแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากอินโดนีเซีย อินเดียและมาเลเซีย ในขณะที่จีนเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มีเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้มีเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปจีน 38 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งยังน้อยกว่า 10% ของจำนวนเที่ยวบินในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดและกฎการเดินทางเข้าเมืองของจีนยังคงเข้มงวด
STB เปิดเผยอีกว่า นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในสิงคโปร์นานกว่าช่วงก่อนการเกิดโรคระบาด โดยจำนวนเฉลี่ยของการพำนักในประเทศของนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนเม.ย.-ธ.ค. 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลยกเลิกข้อกำหนดการกักตัวนั้น อยู่ที่ 4.81 วัน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ซึ่งมีจำนวนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.36 วัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข้อมูลจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ระบุว่า ในปี 2562 การท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ และคิดเป็น 10% ของการจ้างงาน