นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวกับบรรดานายธนาคารและนักธุรกิจในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด หลังจากการแพร่ระบาดได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตลอดปี 2565 และในไตรมาส 4 ของปี 2565 ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวรวดเร็วขึ้นในปี 2566
ทั้งนี้ นายหลิวได้แสดงความเชื่อมั่นต่อที่ประชุม WEF ว่า ตัวเลข GDP จะกลับมาขยายตัวที่ระดับ 6% ซึ่งเป็นระดับก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด หลังจากที่ GDP จีนขยายตัว 3% ในปี 2565 ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8%
"เราเชื่อมั่นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะกลับสู่ระดับปกติอีกครั้ง และขณะนี้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติแล้วหลังจากที่เรายกเลิกมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวด ส่วนในปีนี้ รัฐบาลจีนจะมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การนำเข้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" นายหลิวกล่าว
นายหลิวได้กล่าวถึงประเด็นยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นจนทำให้มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลในจีนว่า เขามั่นใจว่ายอดการติดเชื้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ