นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (18 ม.ค.) ว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีเพิ่มอีกในขณะนี้ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้
นายคุโรดะได้แสดงความคาดหวังว่า การบิดเบือนที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรจะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมกับกล่าวว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control - YCC) เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ นายคุโรดะย้ำว่า BOJ จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของค่าจ้างและเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อมีเสถียรภาพและยั่งยืนตามเป้าหมายของ BOJ
คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วง -0.5% ถึง +0.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา
การคงนโยบายการเงินดังกล่าวสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่า BOJ จะปรับนโยบายการเงินอีกครั้ง หลังจากที่สร้างความประหลาดใจด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ -0.25% ถึง +0.25% นอกจากนี้ BOJ ยังตัดสินใจคงนโยบายการเงินในวันนี้แม้คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปีงบประมาณ 2565 จะสูงถึง 3% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% ของ BOJ ก็ตาม
ในการประชุมครั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารสด จะพุ่งขึ้น 3% ในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานในปีงบประมาณ 2566 จะเพิ่มขึ้น 1.6% และจากนั้นจะเพิ่มขึ้น 1.8% ในปีถัดไป ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ BOJ