บีเอชพี กรุ๊ป (BHP Group) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานผลผลิตแร่เหล็กสูงเป็นประวัติการณ์ในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2566 พร้อมกับคาดการณ์ว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ให้แข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ด้วย
ในช่วงเวลา 6 เดือนจนถึงเดือนธ.ค. 2565 บริษัทบีเอชพีผลิตแร่เหล็กได้ 132 ล้านตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของห่วงโซอุปทาน และอุปสงค์จากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายไมค์ เฮนรี ซีอีโอของบีเอชพี กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ (19 ม.ค.) ระบุว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 นั้น คาดว่าจะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะซบเซาในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าจีนจะสามารถผลิตเหล็กกล้าได้มากกว่า 1 พันล้านตันเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนจนถึง 31 ธ.ค. 2565 บีเอชพีผลิตแร่เหล็กได้ 66.9 ล้านตัน มากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 64.2 ล้านตัน
นอกจากนี้ บีเอชพีได้คงตัวเลขคาดการณ์ผลผลิตแร่เหล็กในปีงบประมาณ 2566 แต่ชี้ว่าผลผลิตทองแดงอาจแตะระดับต่ำสุด ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาของเหมืองทองแดงเอสคอนดิดา (Escondida) ในชิลีซึ่งเป็นเมืองแร่ทองแดงขนาดใหญ่ในที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากผลกระทบของการใช้มาตรการด้านอุตสาหกรรม