นายติง เค่อ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจแห่งองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ให้สัมภาษณ์เป็นลายลักษณ์อักษรกับสำนักข่าวซินหัวว่า เขามีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566 นี้ โดยเขาคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนมีโอกาสเติบโตมากกว่า 5%
สำหรับอุตสาหกรรมของจีนที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงนั้น นายติงยกให้เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของ GDP จีน และสัดส่วนดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายติงเชื่อว่าจีนยังมีข้อได้เปรียบอย่างมากในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น พลังงานใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า โดยจีนเป็นฐานการผลิตโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังแซงหน้าเยอรมนีขึ้นแท่นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่อันดับสองของโลก โดยได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
นายติงสรุปว่า ตราบใดที่จีนยังคงสามารถบ่มเพาะอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดเส้นทางใหม่ ๆ และทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเศรษฐกิจจีนก็จะมีพลวัตอยู่เสมอ