ข้อมูลจาก Standard Media Index (SMI) บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนทวิตเตอร์ดิ่ง 71% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากบรรดาผู้โฆษณารายใหญ่แห่ถอนตัวจากแพลตฟอร์มหลังนายอีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลล่าสุดของ SMI มีขึ้น หลังทวิตเตอร์พยายามแก้ปัญหาการแห่ถอนตัวของเหล่าผู้โฆษณา ซึ่งทางบริษัทได้นำเสนอโครงการริเริ่มมากมายเพื่อเอาชนะใจผู้ลงโฆษณา ทั้งการเสนอโฆษณาฟรีบางส่วน ยกเลิกข้อจำกัดการห้ามโฆษณาทางการเมือง และเปิดโอกาสให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามากำหนดตำแหน่งของโฆษณาของตนเองได้มากขึ้น
จากข้อมูลของ SMI นั้น การใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนทวิตเตอร์ในเดือนพ.ย. ร่วงลง 55% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าโดยปกติแล้ว เดือนเหล่านี้ของแต่ละปีจะเป็นนาทีทองที่แบรนด์ต่าง ๆ จะมาโปรโมทผลิตภัณฑ์ของตนเองในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
นอกจากนี้ การคาดการณ์จากพาร์ทเมติกส์ (Pathmatics) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยอีกแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า บริษัทต่าง ๆ ยุติการใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนทวิตเตอร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่นายมัสก์กู้คืนบัญชีที่ถูกแบนและเปิดระบบจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตน (เครื่องหมายถูกบนพื้นหลังสีฟ้า) ส่งผลให้มีมิจฉาชีพที่ลอกเลียนแบบองค์กรต่าง ๆ ผุดขึ้นจำนวนมาก
จากการประเมินของพาร์ทเมติกส์ ผู้โฆษณา 14 ใน 30 อันดับแรกบนทวิตเตอร์ยุติการโฆษณาทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม หลังจากที่นายมัสก์เข้ามาบริหารทวิตเตอร์ในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา