ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันนี้ (1 ก.พ.) ระบุว่า บรรดาเทรดเดอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกแตะระดับสูงสุดแล้ว ขณะที่แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กลายมาเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อตลาดต่าง ๆ ในปีนี้
เจพีมอร์แกนเปิดเผยผลสำรวจลูกค้าสถาบันและเทรดเดอร์ประจำปีพบว่า 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 835 รายคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะลดลงในปี 2566 และอีก 37% คาดการณ์ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาจะชะลอลง
เมื่อถามว่าปัจจัยใดที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดมากที่สุดในปีนี้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจ ประมาณ 30% จากทั้งหมดระบุว่า พวกเขากังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากที่สุด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเพียง 5% ของผู้ตอบแบบสำรวจแบบเดียวกันในปีที่แล้ว
นายสกอตต์ วอคเกอร์ หัวหน้าฝ่ายขายอีคอมเมิร์ซสำหรับตราสารหนี้ สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ (FICC) ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ภาวะเงินเฟ้อเป็นความวิตกอันดับหนึ่งในตลาดมาสักพักแล้ว และสิ่งที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กังวลก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อ และธนาคารกลางได้ดำเนินการมากเกินไปแล้วหรือไม่ในความพยายามที่จะชะลอการปรับขึ้นของราคา"
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันอย่างมากว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.5%-4.75% ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (1 ก.พ.)