สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผลจากการดำเนินมาตรการคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวดตลอดระยะเวลา 3 ปี รวมถึงวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเงินกองทุนของรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้หน่วยงานรัฐบาลทั่วประเทศต้องแบกรับหนี้สินก้อนโต ซึ่งลุกลามบานปลายจนทำให้บางเมืองไม่สามารถให้บริการขั้นพื้นฐานได้ และมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ประเมินว่า รัฐบาลจีนมีหนี้สินกว่า 123 ล้านล้านหยวน (18 ล้านล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว โดยเกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์เป็นหนี้แอบซ่อน ซึ่งเกิดจากแพลตฟอร์มจัดหาเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความเสี่ยง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเมืองหรือมณฑลต่าง ๆ
ด้วยแรงกดดันทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมีรายงานว่า รัฐบาลในภูมิภาคต่าง ๆ ได้ปรับลดค่าแรง ลดบริการขนส่ง และลดเงินอุดหนุนค่าเชื้อเพลิงท่ามกลางฤดูหนาวที่รุนแรง
สื่อจีนหลายสำนักรายงานว่า ประชาชนหลายพันคนจากมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีนประสบปัญหาในการสร้างความอบอุ่นภายในบ้านในเดือนพ.ย.และธ.ค. เนื่องจากขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์เจี้ยเมี่ยนของจีนระบุว่า การตัดเงินอุดหนุนจากภาครัฐเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
ในเดือนม.ค. หลายครัวเรือนในเมืองเหอกัง มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ ถูกทิ้งให้อยู่โดยไม่มีเชื้อเพลิงให้ความอบอุ่นหลังจากบริษัทในท้องถิ่นจำกัดการส่งก๊าซอย่างเข้มงวด โดยบริษัทต่าง ๆ กล่าวโทษว่าเป็นเพราะขาดเงินอุดหนุนจากรัฐบาล