ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ลดลงนั้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออก และเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอยอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีกในปีนี้
อินโดนีเซียมียอดการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.92 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 โดยได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูงซึ่งช่วยหนุนค่าเงินรูเปียห์ และทำให้บัญชีเดินสะพัดของประเทศดีขึ้น แต่มูลค่าการส่งออกชะลอตัวลงในช่วงปลายปี เนื่องจากราคาสินค้าปรับตัวลง
นักเศรษฐศาสตร์ 21 คนที่ได้รับการสำรวจคาดการณ์โดยเฉลี่ยว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียอาจขยายตัว 4.84% ในไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากขยายตัวรายปีแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 ปีในไตรมาส 3
ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราดังกล่าว ก็จะถือเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 1 ปี
อินโดนีเซียจะเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GPD) ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 4.00-6.20%
เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส คาดว่าการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 4/2565 อาจชะลอลงเหลือ 0.33% โดยลดลงจาก 1.81% ในไตรมาส 3/2565
นายสุริยปุตรา วิจักษณา นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารเซ็นทรัลเอเชียกล่าวว่า "การเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ราคาและอุปสงค์สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง"