สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) เพิ่มขึ้นสองเท่าจากวันก่อนหน้า (5 ก.พ.) สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 หลังจากที่ฮ่องกงกับจีนกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างกันอย่างเต็มรูปแบบ
กรมตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงรายงานว่า มีการเดินทางมากกว่า 233,000 เที่ยวข้ามด่านพรมแดนทางบกและเรือข้ามฟากของฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 116,000 เที่ยวของวันก่อนหน้า และมีปริมาณการจราจรต่อวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2563
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองโดยรวม รวมถึงผ่านสนามบิน เพิ่มขึ้น 64% แตะระดับ 284,000 เที่ยว ซึ่งเป็นระดับการจราจรสูงสุดในรอบ 3 ปีเช่นกัน โดยการเดินทางขาเข้าฮ่องกงผ่านจุดตรวจทางบกและเรือข้ามฟากเพิ่มขึ้น 66% เป็น 114,000 เที่ยว ขณะที่การเดินทางขาเข้าฮ่องกงผ่านท่าทั้งหมดเพิ่มขึ้น 42% เป็น 142,000 เที่ยว
ทั้งนี้ ฮ่องกงเร่งยกเลิกมาตรการสกัดโควิดนับตั้งแต่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ยุตินโยบายซีโร่โควิด และได้กลับสู่ภาวะปกติเกือบทั้งหมด ยกเว้นยังคงบังคับให้ใส่หน้ากาก
ฮ่องกงต้องการที่จะกลับมาเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่และเปิดรับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อฟื้นสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลกและการเป็นประตูสู่จีน ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการปิดเมืองยืดเยื้อ โดย GDP หดตัวลง 3.5% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี