ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (8 ก.พ.) หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,949.01 จุด ลดลง 207.68 จุด หรือ -0.61%
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2563 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 17.6% ในเดือนธ.ค.
-- เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า ทางรัฐบาลกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดส่งเครื่องบินรบของอังกฤษให้แก่ยูเครน
ทั้งนี้ โฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ กำลังพิจารณาว่าอังกฤษจะสามารถจัดส่งเครื่องบินรบให้แก่ยูเครนเพื่อช่วยในการทำสงครามกับรัสเซียได้หรือไม่
-- สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงลอนดอนออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลอังกฤษมิให้ส่งเครื่องบินรบแก่ยูเครน โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางการเมืองและทางทหารต่อทวีปยุโรปและต่อทั่วทั้งโลก
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษยืนยันเมื่อคืนว่า ทางรัฐบาลกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดส่งเครื่องบินรบของอังกฤษให้แก่ยูเครน
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
-- ตลาดหลักทรัพย์ตุรกีประกาศระงับการซื้อขายหลักทรัพย์ ออปชั่น และสัญญาล่วงหน้าในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไม่มีกำหนด ขณะที่นักลงทุนส่งแรงเทขายอย่างหนัก หลังจากที่ตุรกีเผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
การระงับการซื้อขายดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งขณะนั้นตลาดระงับการซื้อขายเป็นเวลา 1 สัปดาห์จากสาเหตุแผ่นดินไหวเช่นกัน
-- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เดินทางเยือนอังกฤษในวันพุธ (8 ก.พ.) และได้เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ที่พระราชวังบักกิงแฮม
ทั้งนี้ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับปธน.เซเลนสกีเป็นเวลา 45 นาที
-- สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 9-11 ก.พ. ตามคำเชิญของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซนมีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน รวมทั้งนายหลี่ เค่อเฉียง โดยทั้งสองฝ่ายจะหารือกันเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงของกัมพูชา
-- ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกียังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา สื่อรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวเพิ่มเป็นกว่า 11,200 รายแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิตในตุรกีและซีเรีย
องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจพุ่งขึ้นมากกว่า 20,000 ราย ขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นและการเกิดอาฟเตอร์ช็อกเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการอุนญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., อินโดนีเซียจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., เยอรมนีมีกำหนดเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์