นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวเปิดงานแสดงการบินนานาชาติ Aero India 2023 ในวันนี้ (13 ก.พ.) ว่า อินเดียต้องการเพิ่มการส่งออกยุทธภัณฑ์ป้องกันประเทศรายปีมากขึ้นกว่า 3 เท่า เป็น 5 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2567-2568 จากเดิมที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ และต้องเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินเดียต้องการลงนามในข้อตกลงการส่งออกยุทธภัณฑ์ป้องกันประเทศมูลค่า 7.5 แสนล้านรูปี (9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในงานแสดงการบินที่จัดขึ้น 5 วันในทุก ๆ 2 ปี ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งใหญ่ที่สุด โดยสายการบินต่าง ๆ พยายามซื้อเครื่องบินเจ็ตให้เสร็จสิ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของพลเรือนและกดดันให้ผู้ผลิตเครื่องบินระดับโลกเข้ามาผลิตในอินเดียเพิ่มมากขึ้น ผ่านการเป็นหุ้นส่วนเป็นหลัก "ณ วันนี้ อินเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่ตลาดสำหรับบริษัทด้านกลาโหมเท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นส่วนด้านกลาโหมที่มีศักยภาพด้วย ผมขอเรียกร้องให้ภาคเอกชนของอินเดียลงทุนมากขึ้นในภาคกลาโหมของประเทศ" นายโมดีกล่าว
นายโมดีกล่าวอีกว่า อินเดียเคยเป็นประเทศนำเข้ายุทธภัณฑ์ป้องกันประเทศมากที่สุดรายหนึ่งของโลกมาหลายทศวรรษ แต่ในปัจจุบัน อินเดียพลิกมาเป็นผู้ส่งออกให้กับ 75 ประเทศ
สำหรับงาน Aero India 2023 ได้จัดแสดงสินค้าของบริษัทต่าง ๆ มากมาย อาทิ แอร์บัส, โบอิ้ง, แดสสอลท์ เอวิเอชั่น, ล็อกฮีด มาร์ติน, อิสราเอล แอโรสเปซ อินดัสตรี, บราห์มอส, ซาบ, โรลส์-รอยซ์, ลาร์เซน แอนด์ ทูโบร, ฮาล และภารัต อิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ การมีพรมแดนติดกับชาติปรปักษ์ที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่างจีนและปากีสถาน ทำให้ฝูงบินสมัยยุคโซเวียตของกองทัพอากาศอินเดียจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยโดยด่วน ขณะที่ซัพพลายเออร์ต่าง ๆ จากสหภาพยุโรปและสหรัฐต่างวิ่งเต้นเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด