กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.5% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 5.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.7% ในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวอาจสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
"ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลข CPI ได้สร้างเซอร์ไพรส์ในแง่ที่ต่ำกว่าคาด และจะไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ หากเราเจอเซอร์ไพรส์ในแง่ที่ตัวเลขเดือนม.ค.จะออกมาสูงกว่าคาด" นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมูดี้ส์ อนาลิติกส์กล่าว
นอกจากนี้ นายปีเตอร์ บุควาร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบลีคลีย์ แอดไวเซอรี กรุ๊ป กล่าวเช่นกันว่า "ที่ผ่านมา เรามีตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดเป็นเวลาหลายเดือน แต่สิ่งนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่ ผมไม่ทราบ"
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงมุมมองล่าสุดของเขาเกี่ยวกับเงินเฟ้อในการกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และปีนี้จะเป็นปีที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ คำกล่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวเช่นกันว่า เฟดยังคงต้องใช้เวลาในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่คาดไว้