เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี ผู้ผลิตรถหรูจากเยอรมนีระบุในวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) เพิ่มขึ้น 28% สู่ 2.05 หมื่นล้านยูโร (2.18 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2565 จาก 1.6 หมื่นล้านยูโรในปี 2564 ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 12% สู่ 1.5 แสนล้านยูโรในปี 2565 จาก 1.339 แสนล้านยูโรในปี 2564 ซึ่งสูงเหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนจากการขายของธุรกิจรถยนต์อยู่ที่ 14.6% ในปี 2565 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัทที่ประมาณ 13-15%
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ระบุว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2565 นั้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทมุ่งเน้นไปที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับไฮเอนด์และรถตู้ระดับพรีเมียม ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม เมอร์เซเดส-เบนซ์ลดคาดการณ์ผลตอบแทนจากการขายสำหรับธุรกิจรถยนต์ในปี 2566 โดยลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 12-14% และลดคาดการณ์ผลประกอบการของทั้งบริษัทลงต่ำกว่าในปี 2565 เล็กน้อย แม้ว่ายอดขายของธุรกิจรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับเดิม
เมอร์เซเดส-เบนซ์ระบุ สาเหตุที่ลดคาดการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในยุโรปและการฟื้นตัวที่เป็นไปแบบล่าช้าในจีน หลังจากรัฐบาลยกเลิกการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) แต่ระบุด้วยว่า อุปสงค์ในสหรัฐนั้นมีความแข็งแกร่ง