รัฐบาลนิวซีแลนด์ออกมาเตือนในวันนี้ (20 ก.พ.) ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากพายุไซโคลนแกเบรียล ซึ่งได้คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 11 ราย อาจพุ่งสูงเกิน 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทางการประกาศระดมทุนฉุกเฉินเพื่อผลักดันความพยายามในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พายุไซโคลนแกเบรียลได้พัดถล่มพื้นที่ตอนบนของเกาะเหนือของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ก่อนจะเคลื่อนตัวไปตามแนวชายฝั่งตะวันออก สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยนายคริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ระบุว่า พายุไซโคลนแกเบรียลเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของนิวซีแลนด์ในศตวรรษนี้
ทั้งนี้ นายฮิปกินส์ระบุในการแถลงข่าวว่า "การลงทุนที่จำเป็นเพื่อเชื่อมต่อชุมชนของเราเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับอนาคตของประเทศอีกครั้งจะเป็นเรื่องสำคัญ และมันต้องใช้การตัดสินใจที่ยากลำบาก" พร้อมประกาศอนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุไซโคลน 300 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (187.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ก่อนหน้านี้ นายแกรนท์ โรเบิร์ตสัน รัฐมนตรีคลังนิวซีแลนด์กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูภัยพิบัติครั้งนี้ของรัฐบาลอาจอยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (8.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเทียบเท่ากับการบูรณะเมืองไครสต์เชิร์ชขึ้นใหม่หลังเผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2554
ทั้งนี้ จะมีการใช้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน 250 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์เพื่อการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากภัยพิบัติทั่วทั้งภูมิภาค และขณะที่อีก 50 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ถูกจัดสรรไว้สำหรับธุรกิจต่าง ๆ และบรรดาผู้ผลิตขั้นแรก และคาดว่าจะมีการระดมทุนเพื่อบรรเทาทุกข์และซ่อมแซมความเสียหายจากรัฐบาลตามมาอีกในภายหลัง
นอกจากนี้ นายฮิปกินส์ยังขยายระยะเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติออกไปอีก 7 วันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการฟื้นฟูความเสียหายและบรรเทาทุกข์