บีเอชพี กรุ๊ป (BHP Group) รายงานในวันนี้ (21 ก.พ.) ว่า ผลกำไรครึ่งปีแรกลดลง 32.1% เนื่องจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวดของจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ ส่งผลกระทบต่อราคาแร่เหล็ก และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
รายงานระบุว่า บีเอชพีต้องต่อสู้กับต้นทุนที่สูงขึ้นและตลาดแรงงานที่ตึงตัว ท่ามกลางราคาแร่เหล็กที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวดของจีนได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทำให้อุปสงค์ลดลง
อย่างไรก็ตาม บีเอชพีจับตาการฟื้นตัวของอุปสงค์ผลิตภัณฑ์การผลิตเหล็กจากจีน เนื่องจากจีนผ่อนคลายการควบคุมโควิดและให้การสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังย่ำแย่
ขณะเดียวกัน บีเอชพีระบุว่า กำไรพื้นฐานจากการดำเนินงานต่อเนื่องอยู่ที่ 6.60 พันล้านดอลลาร์สำหรับช่วง 6 เดือนที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2565 เมื่อเทียบกับ 9.72 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 และต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของวูมา ไฟแนนเชียล (Vuma Financial) ที่ 6.82 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บีเอชพีประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.90 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับ 1.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นที่ประกาศจ่ายในปีก่อนหน้า