สเตลแลนทิส บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไครสเลอร์เปิดเผยวันนี้ (22 ก.พ.) ว่า ผลกำไรสุทธิสำหรับปีงบประมาณ 2565 เพิ่มขึ้น 26% สู่ระดับ 1.68 หมื่นล้านยูโร (1.79 หมื่นล้านดอลลาร์) ขณะที่ยอดขายแบตเตอรี่และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 41%
สเตลแลนทิส ระบุว่า รายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 18% สู่ระดับ 1.796 แสนล้านยูโร โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านราคาที่แข็งแกร่ง ความสนใจที่มีต่อรถยนต์รุ่นต่าง ๆ และผลกระทบเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
นายคาร์ลอส ทาวาเรส ซีอีโอของสเตลแลนทิสระบุว่า ผลประกอบการดังกล่าวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ด้านพลังงานไฟฟ้าในยุโรปของบริษัท โดยเห็นได้จากยอดจำหน่ายแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 288,000 คันในปี 2565 และปัจจุบันบริษัทมีรถยนต์ BEV ทั้งหมด 23 รุ่นในท้องตลาด
ทั้งนี้ สเตลแลนทิสคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีรถยนต์ BEV รุ่นต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวสู่ 47 รุ่นภายในสิ้นปี 2567 โดยสเตลแลนทิสตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ BEV ทั่วโลกไว้ที่ 5 ล้านคันภายในปี 2573
นอกจากนี้ สเตลแลนทิสยังประกาศจ่ายเงินปันผลจำนวน 4.2 พันล้านยูโร (4.47 พันล้านดอลลาร์) ให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 1.34 ยูโรต่อหุ้น ในขณะที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการซื้อหุ้นคืนจำนวน 1.5 พันล้านยูโร โดยจะดำเนินการภายในสิ้นปี 2566